วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Artnoi กับ iLife

หลังจากที่ได้เกริ่นนำใน เอนทรี่ที่แล้ว มาแล้วนะครับ ผมจะขอพูดถึงเรื่อง iLife'11 ละกันนะครับ
ว่ามันคือโรแกรมสามัญประจำเครื่อง Mac ที่ต้องอัพเกรดจาก iLife'09 หรือถ้าซื้อเครื่องในช่วงนี้ก็จะได้แถมมาฟรีๆครับ
โดยมีโปรแกรมที่เป็นตัวหลักดังนี้

- iPhoto เอาไว้จัดเก็บรูปไว้เป็นอัลบั้มหรืออีเวนท์ และสามารถแต่งรูปภาพได้ (แต่ทำได้ไม่ดีเท่า LR หรือ PS) นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ภาพถ่ายไปยัง Facebook หรือ Online Gallery สำหรับคนที่สมัครบริการ MobileMe ได้ด้วย และในตัว iPhoto'11 นี้สิ่งที่เพิ่มมาคือ Full Screen Mode ครับ หรือพูดง่ายๆคือจะสามารถดูรูปภาพ, แต่ง, เปิดโชว์คนในเต็มหน้าจอได้นั่นเอง ว้าวสุดยอด ซำ้ยังเพิ่มเทมเพลตเท่ห์ๆให้ทำสไลด์โชว์ให้อีก ลองซื้อมาเล่นดูนะครับ :D ข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com

- iMovie เป็นโปรแกรมสำหรับตัดต่อวีดีโอทั่วไป ไม่ใช่สำหรับมืออาชีพแบบ Final Cut Pro นะครับ
โดยลูกเล่นใหม่ก็เยอะเหมือนกัน เช่น "Trailer" หรือพูดง่ายๆคือสามารถตัดต่อวีดีโอตัวอย่างสั้นๆได้ (ไร้สาระมาก) และอื่นๆมากมาย ข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com

- GarageBand นี่เป็นโปรแกรมที่ผมรักมากใน iLife ครับ เพราะเป็นโปรแกรมที่ผมใชตัดต่อเพลงของผมทุกเพลง ด้วย UI ที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องมีพื้นฐานทางด้านดนตรี นี่จึงทำให้ผมสามารถแต่งเพลงได้ =w= โดยครั้งนี้มีความสามารถเพิ่มมาที่เยี่ยมๆเช่นทำให้เพลงเข้าจังหวะได้ด้วยปุ่มเดียว ข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com

แกะกล่อง iLife'11


อา.. ในที่สุดผมก็ได้มันมา หลังจากที่รอต่อจากพ่อมานาน (แน่นอน ผิด License เพราะแผ่นเดียวลง 3 เครื่อง อะฮิๆๆ) ผมก็ได้บรรจงแกะห่อพลาสติกที่พ่อถนอมไว้อย่างดีออกมา และค่อยๆคลำคลึงที่ตัวกล่อง ก็พบว่ามันสุดยอดมากกก Apple เป็นโรคจิตชอบทำ Packaging ของ Product เป็นกระดาษสีขาวนวล ดุแล้วช่างคล้ายกับขาอ่อนผู้หญิง เอ้ยไม่ใช่ๆ เมื่อแกะออกมาก็ได้สำผัสกับกล่อง iLife'11 สีขาวบริสุทธิ์เช่นนี้


ปกหลังก็มีการโม้สรรพคุณของโปรแกรมต่างๆไว้ซะเยอะ รวมถึง What's new และฟีเจอร์ใหม่ๆด้วยนะเธอว์


เปิดออกมาก็เจอแผ่น DVD กากส์ๆอยู่ แผ่นนี้ราคาเป็นพันส์เลยนะเธอว์~ แต่คุณค่าจริงๆแล้วกระดาษ Packaging แพงกว่าตัวแผ่นโปรแกรมอีกนะ- -


ข้างในกล่องอีกมีแผ่นกระดาษโม้ว์สรรพคุณอีก อืมม์ แค่ปกหลังนี่โม้ว์ไม่พอสินะเธอว์~ หลังจากไม่ได้ออกตัว '10 พอออก '11 ก็เลยมีฟีเจอร์ที่กั๊กไว้เยอะจนโม้ไม่หมดน่ะสิ ถ้าออกทุกปีก็ไม่ต้องมีแผ่นนี้หร๊อกก


โอ้วว มีสติ๊กเกอร์ Apple แถมมาให้ติดกระจกรถด้วยแฮะ ชาบรูวจริงๆ ท่านศาสดา Jobs ตอนนี้สติกเกอร์พวกนี้ของผมถูกนำไปแปะตู้เย็นเรียบร้อยแล้ว~

การ Install iLife'11


อาล่ะ หลังจากที่ได้ดูการห่อหีบของ iLife'11 ไปแล้ว มาดูการ Install กันดีกว่า โดยซอฟต์แวร์นี้น่าจะต้องการ Mac OS 10.6 หรือใหม่กว่าในการ Install เท่านั้นนะครับ โดยเมื่อใส่แผ่นไป เราก็จะเจอหน้าต่างหน้าตาน่ารักๆ แบบนี้ และเราก็คลิกไปที่ Install iLife (รูปกล่องกากๆสีเหลือง)

หลังจากนั้นก็กด Continue ไปเรื่อยๆตามหลักการ

โอ้วชิท แดรก HDD ถึง 4.04GB เลยเรอะ


ภาคการใช้งาน

หลังจากที่ได้ลองเล่นๆดูแล้วพบว่า โปรแกรมทุกโปรแกรมเปิดได้หมด ยกไว้ iPhoto ซึ่งยังเปิดเลยไม่ได้ แต่จะขึ้นอย่างนี้มาแทน


โดยเราจะแก้โดยการเข้าไปที่ Software Update และอัพเดท iPhoto ซะ แค่นี้ก็จบแล้วนะเธอว์

และผมจะได้รีวิว iPhoto เป็นโปรแกรมแรกละกันนะครับ อย่าคิดว่าจะได้เล่นเลยนะต้องให้มัน Update iPhoto Library อีก ถ้ารูปเยอะโคตรนานเลย (@Tarathon ในทวิตเตอร์บอกมาครับ)



และเมื่อ Update iPhoto Library เสร็จแล้ว จะได้เห็นหน้าตาอันเกลี้ยงเกลาของ iPhoto'11 ครับ โดยหน้าตาเป็นอย่างนี้ (ข้างล่างมีปุ่มสำหรับเปิด Full Screen โหลดที่ทาง Apple โม้ว์ไว้นักหนาด้วยนะเธอว์)

โดย Effect ตอนเอาเคอร์เวอร์ลากผ่าน Album หรือ Event ก็จะเนียนขึ้นด้วย และหน้าตาไอคอนทางซ้ายมือที่จะให้เลือกชื่ออัลบั้ม, อีเวนท์, Recent Import ก็จะมีหน้าตาเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งผมว่าตลกขึ้นมาก :P

รูปร่างและ UI ที่เปลี่ยนไปมากของ iPhoto ครั้งนี้อาจทำให้คนที่เคยชินกับรุ่น '09 แปลกใจมิใช่น้อยว์เลยนะเธอว์ และนี่คือหน้าตา Full Screen Mode ครับ แทบไม่ต่างจาก Windowed เลยเนอะ =w=)a



และที่มีเพิ่มมาคือช่อง Search ซึ่งอยู่ทางด้านล่างของโปรแกรม เอาไว้ช่วยหารูป, หน้าคน ได้ครับ


โดยในโหมด Full Screen นั้นเราสามารถ Edit รูปในโหมดนี้ได้ด้วย เจ๋งมั๊ยล่ะเธอว์ (แต่คงไม่หวังอะไรมาก เพราะคงไม่มีใครอยากใช้ iPhoto เพื่อแต่งรูปอยู่แล้ว)



แล้วที่เจ๋งกว่านั้นคือเราสามารถเลื่อนเคอร์เซอร์ไปตรงแถบรูปแล้วแถบมันก็จะขยายใหญ่ด้วยนะ XD (ชอบอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้)








**********(มีต่อนะครับ เดี๋ยวมาเขียนต่อวันหลัง)**********

เกริ่นนำเรื่อง Artnoi กับ iLife'11

หลังจากที่งาน Back to the Mac ได้ออกมาฮาเฮตั้งนาน (มีของเล่นใหม่ออกมาเยอะแยะเช่น OS X Lion, MacBook Air, iLife'11)
ซึ่งผมก็ไม่ได้เขียนบล็อกเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น (คงมีคนเขียนไปเยอะแล้วล่ะ) กระแสมันมาแรงจริงๆเรื่อง new MBA เนี่ย
แน่นอนว่า New MacBook Air ผมคงไม่มีปัญญาซื้อมาให้ทุกท่านอ่านรีวิวได้ นอกเสียจากไปลูบๆคลำๆคลึงๆที่ iStudio แล้วมาบอกความรู้สึก
เอาล่ะ เข้าเรื่องเสียที หลังจากที่ผมดองบล็อกมานาน (แม้แต่เรื่อง iPod ชุดใหม่ผมก็ยังไม่เขียนเล้ย XD) ผมจะกลับเขียนอีกครั้ง (แล้วก็หายไปอีก)
โดยเรื่องที่จะเขียนนี้เป็นเรื่อง iLife'11 ซึ่งพ่อผมไปหรอยมาและเอาไปดองต่อที่ออฟฟิศ กว่าจะได้มาก็ตั้งนาน
ตอนที่กำลังเขียนบทความนี้ผมกำลัง Insall เจ้า iLife'11 อยู่ครับ ไว้ผมลงเสรจแล้วจะลองเล่นๆและมาบอกความรู้สึกละกันนะครับ ;D

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

Nerd, Geek, Dork


หลังจากการทำวิจัยกับเพื่อนในห้องที่เนิร์ดคนนึงเสร็จ ผมก็จึงสรุปความเนิร์ดเป็นอย่างนี้
หากไม่แน่ใจว่าเข้าใจได้ถูกต้องหรือเปล่า อธิบายสั้นๆ ตามภาพคือ
ดวีบ (dweeb) = คนฉลาด + เข้าสังคมไม่ได้ ซึ่งคำว่าดวีบในภาษาอังกฤษยังสื่อถึงพวกคนเก่งๆ ที่ชอบแกล้งชาวบ้านทำให้คนอื่นรำคาญ
กี๊ก (geek) = คนฉลาด ที่ หลงใหล คลั่งไคล้ อะไรซักอย่างแบบสุดๆ
ดอร์ก (dork) = คนที่หลงใหล คลั่งไคล้ อะไรสุดๆ ที่เข้าสังคมไม่ได้
เนิร์ด (nerd) = คนฉลาดที่คลั่งไคล้อะไรสุดๆ และก็มักเข้าสังคมไม่ได้
หาก เนิร์ด กี๊ก หรือดอร์กคนไหนสนใจเรื่องนี้ อ่านต่อกันได้ที่ http://itshee.exteen.com/20090321/nerd-geek-dork

วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

iMac และ Magic Trackpad





โอ้๊ะ แอปเปิลออกสินค้าใหม่อีกแล้ว มันคืออะไรน่ะ แต่นแต๊น Magic Trackpad นั่นเอง

ทาง Apple บอกว่าเจ้า Magic Trackpad ก็คือ Multi-touch Trackpad บน MacBook และ MacBook Pro น่ะแหละ

ส่วนตัวผมก็ไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์ยังไง เพราะเดิมใช้ iMac กับ Mighty Mouse ไม่ก็ Magic Mouse ก็แฮปปี้อยู่แล้ว

สงสัยแค่อยากโชว์พาวล่ะมั๊ง เท่าที่ดูๆเป็น Wireless ไร้สายกรี๊ดกร๊าด แบตเตอรี่เป็นถ่าน AA

สนนราคาก็ไม่ได้แพงมากมาย ราวๆ $69 หรอ 2222.145 บาทนั่นเอง

ต่อไปมาดู iMac พระรองของเอนทรี่นี้กันดีกว่า ถ้าไม่พูดถึงเดี๋ยวหนู iMac จะน้อยใจ

ออกใหม่คราวนี้ทําคุณพ่อเราเสียใจไปตามเคย เพราะไม่ใช้ชิปประมวลผล Core 2 Duo แล้ว

หันมาใช้ i3 , i5 , i7 แทน และการ์ดจอครั้งนี้ก็มาด้วย ATI Radeon ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
และตอนนี้สิ่งที่ผมคิดไม่ถึงคือขนาดจอ 27 นิ้ว ที่มีสัดส่วนเซ็กซี่มากมาย 16:9 ความละเอียด 2560x1440 pixel ดูหนังสบายเลย

สเป็กทั่วไปไม่ขอพูด มันน่าเบื่อเกิน ไปอ่านเองนะครับ คลิกเพื่อดูสเป็ก

วันพุธที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Artnoi กัับทวิตเตอร์

“ผมชอบ Twitter ตรงที่มันอยู่กับเราตลอดเวลา ไม่เหมือนอย่างอื่นที่มีข้อจำกัดเยอะ ถ้าเทียบกับของที่มีอยู่แล้ว อย่าง MSN Messenger ใช้บนมือถือได้ยากกว่า และไม่ใช่ว่าทุกคนจะใช้ได้ อัพโหลดรูปส่งลิงค์ขึ้นไม่ได้ คือไม่ว่าอะไรมันก็ต้องการอย่างน้อยโน้ตบุ๊ก แค่มือถือยังไม่สะดวกพอ ไม่เหมือน Twitter ที่สะดวกกว่ามาก ไม่ต้องมานึกชื่อเมล ไม่ต้องมาสนใจว่าเขาออนไลน์อยู่หรือเปล่า” Artnoi กล่าวเมื่อ 14.07.10

Follow Artnoi on twitter

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เอาใจคนเล่นบีบี



ตอนนี้ Artnoi มีกรุ๊ปใน BlackBerry Messenger ซะแล้วว

ชื่อกรุ๊ปว่า Thailand Mac user สามารถจอยได้ทุกเมื่อนะจ๊ะ

แล้วก็มีบาร์โค้ดอาร์ทด้วย ยังไงๆก็สแกนมาละกัน

Mac mini และ Safari 5



เชื่อรึยังว่า Apple มันขยัน.....

เผลอแปปเดียวก็ออก Mac mini ใหม่กับ Safari 5 ออกมาอีกละ เรามาดูกันคร่าวๆดีกว่า

Mac mini

-การ์ดจอ NVIDIA GeForce 320M 256MB

-แรม 2 GB

-Processor 2.4GHz กับ 2.66GHz Intel Core 2 Duo < งงมาก ทําไมแอปเปิลไม่ใช้ i5 ไม่ก็ i7

-ฮาร์ดดิสก์ 320GB or 500GB Serial ATA hard disk

ดีไซน์ใหม่สวยมากกก แต่สเปคมันธรรมดาไปหน่อย เต็มสิบให้ 7 พอ

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.apple.com/macmini/

Safari 5

ต่อไปมาดู Safari 5 กัน

เท่าทีโหลดมารู้สึกว่ามันจะกากๆไงไม่รู้

คือไอตรงที่เค้าให้ใส่ที่อยู่ของเว็บอ่ะ มันมีแถบสีฟ้าๆขึ้นเวลาโหลดเว็บด้วย (เหมือน Safari บน iPad, iPod, iPhone)

ชอบ Safari 4 มากกว่าอ่ะ แต่ไม่รู้นะ เพราะยังเล่นไม่หมด (เพิ่งออกวันนี้เอง)

ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.apple.com/safari/

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

iPhone 4



Apple คันไม้คันมือหลังออก MacBook Pro, iPad ได้แปปๆ ก้เกิดบ้าอะไรขึ้นมา ออก iPhone 4 มาด้วยความสามารถใหม่คือ

1) Retina Display
จอเดิมของ iPhone 3GS ก้ชัดจะแย่ละ ยังจะมีตัวชัดกว่าอีกเรอะ ด้วยความละเอียด 960x640 พิกเซลบนจอ 3.5"
ขนาด MacBook 13.3" ยังแค่ 1280x800 เอง จอเราเลยกากไปเลย TT

2) Apple A4 processor
คงคุ้นหูกับคํานี้แล้วสินะ เพราะเจ้าชิปตัวนี้ก้อยู่ใน iPad ด้วย

3) Stainless Steel Band
รอบข้างที่เป็นสแตนดลสสตีลไร้รอยต่อแลดูงดงาม

4) Engineered Glass
แก้วใสแจ๋วแปะบนหน้าจอเพื่อความนุ่มเวลาสัมผัสเหมือน Multi-touch Tecnology บนเฟซบุ๊ค

5) กล้องสองตัว + LED Flash
iPhone มีแฟลชจนได้ และก้มีกล้องข้างหน้าไว้ใช้กับโปรแกรม FaceTime

ที่เหลือไปอ่านเองละกัน ขี้เกียจเขียน http://www.apple.com/iphone/

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เหตุผลที่ไม่ชอบทวิตผ่านหน้าเว็บ (เครดิต KennyHass)

แม้ว่าผมจะชอบ Twitter มากแค่ไหน แต่ก็มีอยู่หลายสิ่งที่ผมไม่ชอบในตัวมันอยู่เช่นกัน ซึ่งหลักๆแล้วก็คือตัวหน้าเว็บ http://twitter.com นั่นแหละ ถ้าเลือกได้ผมไม่อยากทวิตหน้าเว็บจริงๆ แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่ผมต้องจำใจทวิตผ่านหน้าเว็บ เพราะเล่นคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่ไม่ได้ลง Client และก็อดไม่ได้ที่จะบ่นให้รู้ว่า



1. ทวิตหน้าเว็บ เป็นอะไรที่บัดซบมาก

พอจะทวิตทีไร หรือจะเปลี่ยนรูปประจำตัวเมื่อไหร่ ก็เป็นต้องค้่างทุกที ไม่ก็ Page not found ไม่ก็เจอปลาวาฬลอยฟ้า (Failwhale) น่าแปลกใจที่ตัวเองของมันเองทำไมถึงได้เข้ายากเข้าเย็นแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆต้องทวิตผ่าน Client ไม่งั้นชีวิตนี้คงหาความสะดวกไม่ได้แน่ๆ

*ล่าสุดค้นพบวิธีแก้โดยบังเอิญ คือ ให้เปลี่ยนไปเข้าที่ https://twitter.com แล้วจะพบกับทางสว่าง



2. ลบ Reply ที่ Mention ถึงเราไม่ได้

มันเป็นอะไรที่แสลงลูกตามากเลย ถ้าหากมีใครมา mention เราด้วยข้อความเหวงๆ ไม่เป็นประโยชน์กับเรา แต่ไอ้ครั้นจะลบก็ลบไม่ได้ ก็ต้องปล่อยมันทิ้งไปจนกว่าจะมี reply อื่นเข้ามาแทน

*วิธีที่ผมแนะนำก็คือ พยายามทวิตข้อความอะไรก็ได้ที่น่าจะทำให้คนอยากRT เท่านี้replyเหวงๆ ก็จะตกหล่นลงไปเอง



3. ระบบ Retweet API บ้าบอ

Retweet แบบเดิมๆ ก็ดีอยู่แล้ว แค่ "RT @xxxx: <ข้อความ>" ซึ่งเราสามารถเติมข้อความเพิ่มเข้าไปเองได้ แต่พอ Twitter ทำปุ่ม RT หน้าเว็บ เราไม่สามารถเข้่าไปเติมข้อความเพิ่มอะไรได้เลย เข้าใจว่าวัฒนธรรมของเมืองนอกเขาไม่RTตอบเหมือนบ้านเรา แต่นั่นน่ะ สีสันของการทวิตเชียวนะ!

* Twitter Client ส่วนมาก เช่น Echofon, Tweetie มีให้เลือกว่าจะ Retweet เฉยๆ หรือจะ Retweet with comment ก็ได้ ถ้าใครชอบRTตอบ ก็เลือกเป็นข้อหลัง (แต่บาง Client อย่างเช่น Seesmic อาจจะใช้คำว่า Quote แทนคำว่า Retweet with comment ก็มีเหมือนกัน อันนี้ต้องดูให้ดีๆ)



4. จะเข้าหน้าเว็บที ต้องล็อคอินที

"ฮัลโหลทวิตคุง จำเราได้มั้ย? เราไง ที่ติ๊กให้นาย Remember me เราในครั้งต่อไปน่ะ ไอ้ห่า แค่นี้จำไม่ได้" ก็มึนๆงงๆกับมันอยู่เหมือนกันว่า แค่เราไม่ได้เข้าหน้าเว็ยเพียงวันเดียว ต้องใส่usernameกับpasswordทุกครั้งเลยหรือไงแล้วอย่างนี้จะมีให้ช่องติ๊ก Remember me ไปทำเกลืออะไรเนี่ย



5. ทำในสิ่งที่ Client ทำไม่ได้

ทั้งการ Retweet with comment, Reply to all, send pictures, create short url ฯลฯ จริงๆ Twitter น่าจะทำได้มากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ส่งข้อความเฉยๆ (หรือเขาอาจจะวางจุดประสงค์เดิมของเขาไว้อย่างนั้น แต่พวกเราเล่นกันระเบิดเถิดเทิงไปหน่อยก็ไม่แน่ใจนะ)



ส่วนตัวแล้วสำหรับหน้าเว็บ Twitter ผมประทับใจแค่การ Refresh ข้อความใน Timeline และ Reply ซึ่งรวดเร็วทันใจมากเท่านั้น นอกนั้นก็อย่างที่เขียนไว้ 5 ข้อข้างบน แต่ผมเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทีมงานจะพัฒนาเว็บด้วยตัวเองให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้ทีมอื่นไปพัฒนา API กันเอาเอง แล้วตัวเองก็อยู่เป็นเสือนอนกินซะงั้น

คนอื่นพัฒนามาซะดี แต่ต้นตำรับกับไม่พัฒนาอะไรเลย (นอกจากตกแต่งTheme) อย่างนั้นก็ไม่ไหวนะเออ



*อยากจะบอกว่า Seesmic on web ทวิตผ่านหน้าเว็บได้เทพกว่าหน้าเว็บ Twitter.com ซะอีกนะ

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

โปรแกรมตัวเล็กๆ ชั้นเลิศจาก Atebits

"atebites" เป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ตัวเล็กๆสําหรับ Mac ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยใช้มา (ใครจะเถียง ขนาดโปรแกรมเพื่อ Twitter อย่าง Twittie ยังเสียจน

tweetdeck ที่ขนาด(ทั้งไฟล์โปรแกรมและขนาดหน้าต่าง) ใหญ่โตหนักหนาแทบคลั่งไปเลย

ดังนั้นหากใครอยากได้โปรแกรมเล็กๆ ไว้ติดเครื่อง Mac ละก็ ขอเชิญไปที่ atebites.com เลยนะครับ

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

The New MacBook Pro Family



ในที่สุด MacBook Pro ก้ออกมาจนได้ ว้าว หลังจากรอคอยมานาน

โดยเท่าที่ผมดูมารู้สึกว่าซื้อรุ่น 15" กับ 17" น่าจะคุ้มกว่าเพราะได้ใช้ชิพประมวลผลเป็น Core i5 กับ Core i7

งานนี้สาวก Mac เตรียมถอยไว้ได้เลย และแบตเตอรี่นานถึง 10 ชั่วโมง (ในรุ่น 13") และ 9 ชั่วโมง (ในรุ่น 17")

การ์ดจอในรุ่น 13" ก้ NVIDIA GeForce 320M ด้วย 48 Processing Core

ส่วนตัวบอดี้ก้แน่นอน Unibody งดงามมากมาย (รูปร่างคล้าย MacBook Late 2009)

พอร์ตต่างๆก้น่าจะเหมือนตัวเก่า ถ้าดูเผินๆจะเหมือนกันมาก

แต่ถ้าตัวเก่าจะดูคล้าย MacBook Aluminium Late 2008 (ของผม) ถ้าตัวใหม่จะคล้าย MacBook Late 2009